คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5126/2555
ป.อ. ฉ้อโกง หลายกรรม (มาตรา 341, 91)
ป.วิ.อ. ผู้เสียหาย (มาตรา 2 (4))
จำเลยกับพวกมีเจตนาร่วมกันทุจริตมาแต่แรกโดยหลอกลวงว่า จะซื้อที่ดินจากโจทก์ร่วม เมื่อโจทก์ร่วมไปพบจำเลย ซึ่งพวกของจำเลยอ้างว่าเป็นเถ้าแก่จะซื้อที่ดิน จำเลยกับพวกกลับชักนำให้โจทก์ร่วม ร่วมลงหุ้นเล่นการพนันกับพวกของจำเลย โจทก์ร่วมต้องเสียเงินที่ลงหุ้นไป 900,000 บาท แล้วจำเลยกับพวกยังหลอกลวงให้โจทก์ร่วมส่งเงินให้อีก 100,000 บาท อ้างว่าจะนำไปไถ่ถอนที่ดินที่จำนองแล้วจำนองใหม่ เพื่อนำเงินไปเล่นการพนันแก้มือ โจทก์ร่วมส่งเงินให้แล้ว ติดต่อจำเลยไม่ได้ และไม่มีการเล่นการพนันแก้มือ
พฤติการณ์ของจำเลยกับพวกดังกล่าว หากไม่มีการนัดแนะและร่วมกันวางแผนมาก่อน ผลจะเกิดสอดคล้องกันไม่ได้ การติดต่อขอซื้อที่ดินของโจทก์ร่วมและการเล่นการพนันเป็นเพียงเหตุการณ์ที่จำเลยกับพวกสร้างขึ้นเพื่อหลอกลวงเอาเงินของโจทก์ร่วม การที่โจทก์ร่วมเข้าสู่หลุมพรางที่จำเลยกับพวกดักไว้ทำให้จำเลยกับพวกได้เงินจากโจทก์ร่วมไป 1,000,000 บาท จะถือว่าโจทก์ร่วมสมัครใจเข้าร่วมเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือร่วมกระทำความผิดด้วยไม่ได้
โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหาย มีสิทธิร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับจำเลยกับพวก จำเลยกับพวกหลอกลวงโจทก์ร่วมทำให้โจทก์ร่วมหลงเชื่อจ่ายเงินให้จำเลยไป 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1,000,000 บาท เป็นความผิดฐานฉ้อโกงสองกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2552
จำเลยทั้งสามกับพวกมิได้มีเจตนาที่จะเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกัน แต่เป็นแผนการหรือกลอุบายอย่างหนึ่งที่จำเลยทั้งสามสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อจะหลอกลวงเอาเงินจากโจทก์ร่วม ทั้งโจทก์ร่วมมิได้มีเจตนาที่จะไปร่วมเล่นการพนันกับจำเลยทั้งสามมาแต่ต้น
การที่โจทก์ร่วมมอบเงินให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกเพื่อเข้าหุ้นเล่นการพนันดังกล่าวเป็นการตกหลุมพรางที่วางกับดักเอาไว้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์ร่วมเข้าร่วมเล่นการพนันกับจำเลยทั้งสามโดยไม่ได้รับอนุญาต อันจะเป็นการร่วมกับจำเลยทั้งสามกระทำความผิดฐานฉ้อโกง โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยในความผิดฐานฉ้อโกงเงินของโจทก์ร่วม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1343 / 2549
จำเลยทั้งสองกับพวกและผู้เสียหายได้ทำพิธีปลุกเสกเหรียญรัชกาลที่ 5 เพื่อให้ได้เลขท้าย 2 ตัว ของรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อได้เลข 96 มาแล้วจำเลยทั้งสองกับพวกและผู้เสียหายตกลงกันว่าจะไปซื้อหวยใต้ดิน ผู้เสียหายได้มอบเงินจำนวน 50,000 บาท ให้จำเลยที่ 2 เพื่อซื้อหวยใต้ดิน หลังจากมอบเงินให้จำเลยที่ 2 แล้ว จำเลยที่ 2 กับพวกก็หลบหนีไป
พฤติการณ์ของผู้เสียหายดังกล่าวข้างต้นเป็นการร่วมกับจำเลยทั้งสองกับพวกเล่นการพนันสลากกินรวบอันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายมีโทษทางอาญา ผู้เสียหายคดีนี้จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยที่จะมีสิทธิร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินคดีแก่จำเลยทั้งสองในความผิดฐานฉ้อโกงซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ พนักงานสอบสวนย่อมไม่มีอำนาจสอบสวน และพนักงานอัยการโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ป.อ. ฉ้อโกง หลายกรรม (มาตรา 341, 91)
ป.วิ.อ. ผู้เสียหาย (มาตรา 2 (4))
จำเลยกับพวกมีเจตนาร่วมกันทุจริตมาแต่แรกโดยหลอกลวงว่า จะซื้อที่ดินจากโจทก์ร่วม เมื่อโจทก์ร่วมไปพบจำเลย ซึ่งพวกของจำเลยอ้างว่าเป็นเถ้าแก่จะซื้อที่ดิน จำเลยกับพวกกลับชักนำให้โจทก์ร่วม ร่วมลงหุ้นเล่นการพนันกับพวกของจำเลย โจทก์ร่วมต้องเสียเงินที่ลงหุ้นไป 900,000 บาท แล้วจำเลยกับพวกยังหลอกลวงให้โจทก์ร่วมส่งเงินให้อีก 100,000 บาท อ้างว่าจะนำไปไถ่ถอนที่ดินที่จำนองแล้วจำนองใหม่ เพื่อนำเงินไปเล่นการพนันแก้มือ โจทก์ร่วมส่งเงินให้แล้ว ติดต่อจำเลยไม่ได้ และไม่มีการเล่นการพนันแก้มือ
พฤติการณ์ของจำเลยกับพวกดังกล่าว หากไม่มีการนัดแนะและร่วมกันวางแผนมาก่อน ผลจะเกิดสอดคล้องกันไม่ได้ การติดต่อขอซื้อที่ดินของโจทก์ร่วมและการเล่นการพนันเป็นเพียงเหตุการณ์ที่จำเลยกับพวกสร้างขึ้นเพื่อหลอกลวงเอาเงินของโจทก์ร่วม การที่โจทก์ร่วมเข้าสู่หลุมพรางที่จำเลยกับพวกดักไว้ทำให้จำเลยกับพวกได้เงินจากโจทก์ร่วมไป 1,000,000 บาท จะถือว่าโจทก์ร่วมสมัครใจเข้าร่วมเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือร่วมกระทำความผิดด้วยไม่ได้
โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหาย มีสิทธิร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับจำเลยกับพวก จำเลยกับพวกหลอกลวงโจทก์ร่วมทำให้โจทก์ร่วมหลงเชื่อจ่ายเงินให้จำเลยไป 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1,000,000 บาท เป็นความผิดฐานฉ้อโกงสองกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2552
จำเลยทั้งสามกับพวกมิได้มีเจตนาที่จะเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกัน แต่เป็นแผนการหรือกลอุบายอย่างหนึ่งที่จำเลยทั้งสามสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อจะหลอกลวงเอาเงินจากโจทก์ร่วม ทั้งโจทก์ร่วมมิได้มีเจตนาที่จะไปร่วมเล่นการพนันกับจำเลยทั้งสามมาแต่ต้น
การที่โจทก์ร่วมมอบเงินให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกเพื่อเข้าหุ้นเล่นการพนันดังกล่าวเป็นการตกหลุมพรางที่วางกับดักเอาไว้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์ร่วมเข้าร่วมเล่นการพนันกับจำเลยทั้งสามโดยไม่ได้รับอนุญาต อันจะเป็นการร่วมกับจำเลยทั้งสามกระทำความผิดฐานฉ้อโกง โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยในความผิดฐานฉ้อโกงเงินของโจทก์ร่วม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1343 / 2549
จำเลยทั้งสองกับพวกและผู้เสียหายได้ทำพิธีปลุกเสกเหรียญรัชกาลที่ 5 เพื่อให้ได้เลขท้าย 2 ตัว ของรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อได้เลข 96 มาแล้วจำเลยทั้งสองกับพวกและผู้เสียหายตกลงกันว่าจะไปซื้อหวยใต้ดิน ผู้เสียหายได้มอบเงินจำนวน 50,000 บาท ให้จำเลยที่ 2 เพื่อซื้อหวยใต้ดิน หลังจากมอบเงินให้จำเลยที่ 2 แล้ว จำเลยที่ 2 กับพวกก็หลบหนีไป
พฤติการณ์ของผู้เสียหายดังกล่าวข้างต้นเป็นการร่วมกับจำเลยทั้งสองกับพวกเล่นการพนันสลากกินรวบอันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายมีโทษทางอาญา ผู้เสียหายคดีนี้จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยที่จะมีสิทธิร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินคดีแก่จำเลยทั้งสองในความผิดฐานฉ้อโกงซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ พนักงานสอบสวนย่อมไม่มีอำนาจสอบสวน และพนักงานอัยการโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง